ขนมไทยใหญ่

ขนมไทย
ใหญ่เป็นขนมที่มีความเป็นตัวเองมากแค่ชื่อก็ไม่ธรรมดา
แล้วอีกทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยกินได้ไม่รู้เบื่อ
แค่อ่านเจอชื่อขนมก็สะดุดตากันแล้ว
ส่วยทมิน เบ็งโม้ง ฮลหว่า

ส่วยทมิน (ส่วยทะมิน หรือ ส่วยทมิฬ)




นมเบ็งโม้ง





ชนมฮลหว่า หรือ อาละหว่า

ชมหน้าตาขนมกันอีกรอบ เรียงตามจากใกล้ไปไกล เหมือนเดิมที่เขียนเล่าเรื่องกันมา
ส่วยทมิน เบ็งโม้ง ฮลหว่า







ป้าสว่างจิตร ขนมเบ็งโม้ง
ได้เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของแต่ละขนมให้ฟังกันเล็กน้อย

ได้ซื้อขนมมาชิมกันทั้ง 3 ชนิดด้วย (นำกลับมาถ่ายภาพที่บ้านกันต่อ)

ส่วยทมิน (ส่วยทะมิน หรือ ส่วยทมิฬ) เป็นคำเรียกชื่อชนมที่มาจากภาษาพม่า หากแปลเป็นไทย แปลได้ใจความว่า "ข้าวแก้ว"


ขนมส่วยทะมิน" ทำจากข้าวเหนียวผสมกะทิ น้ำตาล จากนั้นนำไปกวนจนเหนียว แล้วจึงตักใส่ถาด
นำแผ่นเหล็กมาวางทับ แล้วเข้าสู่ขบวนการเผา อบจนด้านบนเกรียม พอเห็นได้ว่าหน้าขนมด้านบนมีรอยไหม้
เบ็งโม้ง" เป็นคำมาจากภาษาพม่าเหมือนกัน ในสมัยก่อนจะใช้เมล็ดฝิ่นที่นำมาคั่ว และตำ จากนั้นจึงนำมาโรยบนหน้าขนม
แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว
เบ็งโม้ง ทำจากแป้งข้าวเจ้าใส่น้ำตาลราดหน้าด้วยกะทิ จากนั้นนำไปเคี่ยว กวน และเข้าสู่ขบวนการเผาเช่นดียวกันกับขนมส่วยทมิน

ขนมฮลหว่า หรือ อาละหว่า" ทำจากแป้งข้าวเจ้า สาคู ผสมนำ้ตาล นำไปกวน และราดหน้าขนมด้วยกะทิ จากนั้นก็นำไปอบ เผาจนหน้าขนมเกรียมแบบเล็กๆ น้อยๆ
ขนมทั้ง 3 ชนิดใช้กระบวนการเผา หรือ อบด้วยความร้อนแบบเดียวกัน
ใช้ถ่าน และกะลามะพร้าวเป็นตัวให้ความร้อน โดยเผาทั้งด้านล่าง และด้านบน
โดยด้านบนใช้แผ่นเหล็กวางทับถาดเอาไว้
ใช้เวลาในการเผาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งสูตรการเผาแบบนี้เป็นสูตรการเผาแบบโบราณ


คุณป้าสว่างจิตร บอกว่าขนมทั้ง 3 ชนิดนี้อร่อยมากๆ อยากให้ลองชิมกันดู



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น